ข่าวอัพเดต

NEWS UPDATES

10 สถานที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวฟุกุชิมะ ตอนที่ 2

จากที่เราเคยได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle), หมู่บ้านโออุจิจูคุ (Ouchi-juku), จุดชมวิวสะพานแม่น้ำทะดะมิ (Tadami River First Bridge Viewpoint) ไปแล้วในบทความ "10 สถานที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวฟุกุชิมะ ตอนที่ 1" นั้น ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบการท่องเที่ยวญี่ปุ่นอยู่แล้ว น่าจะต้องรู้จักสถานที่เหล่านี้อยู่บ้าง ครั้งนี้เราก็จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ "ต้องห้ามพลาด" เมื่อมาเที่ยวฟุกุชิมะกันต่อแบบเจาะลึก ไปดูกันเลยว่ามีที่ไหนกันบ้าง

พิพิธภัณฑ์บ้านซามูไรไอซุ (Aizu Bukeyashiki)

บ้านพักซามูไรไอซุในฤดูใบไม้ผลิ ทิวทัศน์แบบญี่ปุ่นดั้งเดิม

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บ้านซามูไรไอซุ บุเคะยาชิกิ เป็นสถานที่ซึ่งทำหน้านี่สืบทอดและเผยแพร่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไอซุ ตลอดจนวิธีซามุไรบูชิโดของไอซุด้วย

บ้านของอดีตซามูไร ไซโก ทะโนะโมะ (Saigo Tanomo) ในสมัยเอโดะ ขนาด 2,300 สึโบะ (ประมาณ 7,603 ตร.ม.) บ้านญี่ปุ่นโบราณที่โอ่อ่า ทำจากไม้จากต้นเซลโควา สนไซเปรส และสนซีดาร์ ทันทีที่คุณก้าวเข้าไปในประตูหน้า คุณจะรู้สึกว่าได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยที่วิถีแบบซามูไรเฟื่องฟู

นอกจากนี้ยังมีโรงสีข้าว ค่ายพักแรม และโรงน้ำชาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัด รวมไปถึงกิจกรรมเวิร์คชอประบายสีตุ๊กตาอะคะเบโกะ และตุ๊กตาล้มลุกญี่ปุ่น กิจกรรมการยิงธนู เป็นต้น

หรือหากเดินชมจนเหนื่อยแล้ว อยากจะแวะพักทานข้าวให้อิ่มท้อง ที่นี่ก็มีร้านอาหาร คุโยเท (Kuyotei) ที่เลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีของฟุกุชิมะและเสิร์ฟมาในถ้วยชามสไตล์โบราณที่เรียกว่า โกโคโบ-โคคิน (Gokobo-Kokin)

แผนที่: https://maps.app.goo.gl/yrpwQ5SCVu7N552W7

ทะเลสาบโกชิคินุมะ (Goshiki-numa Ponds)

สีของทะเลสาบ Goshikinuma ตัดกันกับสีสดใสของใบไม้เปลี่ยนสี

โกชิคินุมะ (Goshikinuma) เป็นชื่อของกลุ่มทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟ 5 แห่งในอุระบันได

การประทุขึ้นภูเขาไฟบันไดในปี ค.ศ. 1888 ทำให้เกิดบึงน้ำหลายสิบแห่งด้วยกัน แต่ที่เป็นเอกลักษณ์และกลายที่รู้จักมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 แห่ง โดยทะเลสาบทั้ง 5 นี้ มีสีสันที่แตกต่างกันไปตามแร่ธาตุในดินในบริเวณนั้น คำว่า "โกชิคินุมะ (Goshikinuma)" ที่แปลว่า "บึงน้ำ 5 สี" จึงเป็นชื่อเรียกรวมกลุ่มของทะเลสาบในอุระบันไดทั้ง 5 นี้

แผนที่: https://maps.app.goo.gl/mXkXsGL7UXccm2RB7

วัดซาซะเอโดะ (Sazaedo Temple)

มองผ่านๆ ดูเหมือนวัดธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อคุณก้าวเข้าไปข้างใน คุณจะพบกับความประหลาดใจและความน่าสนใจของสิ่งก่อสร้างในวัดนี้

วัดซาซะเอโดะ (Sazaedo Temple) เป็นวัดพุทธที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1796 ภายในมีเจดีย์ไม้เก่าแก่สามชั้น ทรงหกเหลี่ยมสูง 16.5 เมตร

ด้านภายในเจดีย์มีบันไดวนเกลียวคู่ซ้อนกันอยู่ คล้ายกันก้นหอยซาซาเอะ ที่เป็นที่มาของชื่อวัด ทางเดินนี้ทำให้ผู้ที่เข้ามาสักการะจากด้านหนึ่งจะไม่เป็นคนที่มาจากด้านหนึ่ง บันไดวนนี้เองที่ทำให้วัดซาซะเอ ไม่เหมือนกับวัดใดในญี่ปุ่น

ในปีค.ศ. 1995 วัดแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ และยังได้รับการติดดาว Michelin Green Guide (1 ดาว สถานที่ควรไปเยือน) ในปี ค.ศ. 2018 อีกด้วย

แผนที่: https://maps.app.goo.gl/bpLTt49nWRxATsMq6

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำฟุกุชิมะ (Aquamarine Fukushima)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำฟุกุชิมะ (Aquamarine Fukushima) ตกแต่งด้วยกระจกใสช่วยเพิ่มความสว่างให้ภายในอาคาร

อะความารีน ฟุกุชิมะไม่ได้เป็นเพียงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์วิจัยที่ให้การสนับสนุนข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับความยั่งยืนและกิจกรรมการอนุรักษ์เพื่อการฟื้นฟูอีกด้วย

นักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านอุโมงค์ใต้น้ำที่รายล้อมไปด้วยสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลอันอุดมสมบูรณ์ รวมถึงฝูงปลาซาร์ดีนและปลาโอแถบขนาดใหญ่ที่มีแหล่งอาศัยอยู่ในทะเลที่มีน้ำขึ้นน้ำลง นอกจากนี้ ที่ชั้น 4 ยังมีสวนพฤกษศาสตร์ที่จัดแสดงพืชพรรณนานาชนิดจากจังหวัดฟุกุชิมะอีกด้วย

และยังมีกิจกรรมมากมายสำหรับเด็กและครอบครัวให้ได้เล่นสนุกเพลิดเพลิน เช่น เขาวงกตปลา เทศกาลศิลปะ และการตกปลา ซึ่งคุณจะได้ตกปลาจริง ๆ แล้วนำไปทอดเป็นอาหารกลางวัน!

แผนที่: https://maps.app.goo.gl/vVBbT7tW6x9DGLeV6

พิพิธภัณฑ์จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima Prefectural Museum)

จังหวัดฟุกุชิมะตั้งอยู่จุดเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคคันโต โฮคุริคุ และโทโฮคุ มีภูมิประเทศที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ มีการพัฒนาที่รุดหน้าเพราะเป็นพื้นที่ที่เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมมาทุกยุคทุกสมัย ก่อให้เกิดประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร

นอกจากนี้ จังหวัดที่มีพื้นที่กว้างใหญ่นี้ยังแบ่งย่อยออกเป็นพื้นที่ได้ 3 โซน ได้แก่ นากาโดริ ฮามาโดริ และไอซุ ซึ่งแต่ละโซนมีสภาพภูมิอากาศและวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน

พิพิธภัณฑ์จังหวัดฟุกุชิมะรวบรวม อนุรักษ์ และส่งต่อมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และหลากหลาย ตลอดจนความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่อยู่เบื้องหลัง ให้กับคนรุ่นต่อไป

พิพิธภัณฑ์จะเปิดให้ผู้คนทั่วไปเข้าชมได้หลายวิธีเพื่อเผยแพร่ข้อมูลและผลการวิจัยที่รวบรวมไว้ไปทั่วโลก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับการออกแบบให้เป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถสัมผัสและเพลิดเพลินกับการสนทนากับผู้อื่นด้วย

หากคุณสนใจว่าคนญี่ปุ่นในสมัยโบราณนั้นดำรงชีวิตกันอย่างไร ก็สามารถเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมได้

แผนที่: https://maps.app.goo.gl/vbTpgePfh5g4a3im9